การ์ดจอ 2 ตัว ดียังไง ไปหาคำตอบกัน

การ์ดจอ 2 ตัว ดียังไง หากย้อนกลับไปเมื่อหลายปีก่อน หากคุณต้องการสร้างคอมพิวเตอร์เพื่อเล่นเกมที่เรียกว่า “คอมพิวเตอร์” การเลือกการ์ดกราฟิกแบบ multi-GPU ที่มี SLI หรือ CrossFire X เป็นสิ่งที่เกมเมอร์หลายคนใฝ่ฝัน แต่ปัจจุบันแทบจะไม่มีใครกล่าวถึงแล้ว

ใส่การ์ดจอ 2 ตัว ด้วยพลังของกราฟิกการ์ดในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นจาก NVIDIA หรือ AMD การใช้กราฟิกการ์ดหลายตัวน่าจะทำให้เรามีคอมพิวเตอร์ที่ใช้กราฟิกมากขึ้นกว่าในอดีต แต่ทำไมไม่ค่อยมีใครพูดถึงเลย? ในบทความนี้เราจะหาสาเหตุ

1. ปัญหาด้านราคา (Pricing Concern)

การ์ดจอ 2 ตัว ดียังไง หนึ่งในสาเหตุหลักที่ทำให้เกมเมอร์เลิกสนใจกราฟิกการ์ดหลายๆ ตัวก็คือ “ราคา” กราฟิกการ์ดระดับเรือธงของ NVIDIA รุ่น RTX 3090 คือตอนนี้ (3 มีนาคม 2565) เพียงการ์ดเดียวราคาเกือบแสนบาท หรือรุ่น RX 6900 XT ของ AMD ราคาประมาณ 60,000 บาท

หากต้องการสร้าง GPU คู่โดยใช้การ์ดกราฟิก 2 ใบ เกมเมอร์จะจ่ายเงินก้อนโตได้กี่เปอร์เซ็นต์ ซึ่งราคาดังกล่าวไม่รวมหน่วยประมวลผลกลาง (CPU), เมนบอร์ด (Mainboard), ระบบระบายความร้อน, พาวเวอร์ซัพพลาย (PSU), รุ่นใหญ่ ฯลฯ ทั้งนี้ต้องเป็นรุ่นไฮเอนด์รวมแล้วอย่างน้อยประมาณ 200,000 – 300,000 บาทเลยทีเดียว

นอกจากคอมพิวเตอร์ที่ต้องการสเปคระดับนี้แล้ว ความละเอียดการแสดงผล 4K พร้อมอัตราการรีเฟรชที่สูง ราคาของจอคอมพิวเตอร์ในระดับนี้ก็ไม่ถูกเช่นกัน

2. ไม่สามารถใช้ระบบระบายความร้อนแบบ Air Cooling ได้

แม้ว่าคุณจะเลือกเคสคอมพิวเตอร์ที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่คุณจะหาได้ หากมีการ์ดแสดงผลมากกว่าหนึ่งตัว ความร้อนที่เกิดขึ้นภายในเคสคอมพิวเตอร์จะสูงมาก อย่าลืมว่าเมื่อใช้การ์ดจอหลายๆ ตัว เพราะหน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) ที่จะทำงานร่วมกันนั้นต้องอยู่ในระดับสูงด้วย เนื่องจากความร้อนที่เกิดจากการ์ดจอซึ่งมีอย่างน้อย 2 ตัว ประกอบกับความร้อนที่เกิดจาก CPU ซึ่งอยู่ในระดับสูงจะทำให้อุณหภูมิภายในเคสสูงจนทำให้ระบบระบายความร้อนด้วยอากาศ (Air Cooling System) จะไม่สามารถจัดการกับมันได้

ซึ่งถ้าจัดการกับปัญหานี้ไม่ได้ก็จะประสบปัญหา ลดความเร็วอัตโนมัติ เมื่อความร้อนของชิปสูงเกินไป เพื่อป้องกันความเสียหาย (Thermal Throttling)

นั่นหมายความว่าคุณต้องการเพียงระบบระบายความร้อนด้วยน้ำหรือของเหลว และมีตัวเลือกให้เลือกสองแบบ: AIO Water Cooling และ Custom Water Cooling

ในกรณีที่เลือก AIO Water Cooling คุณจะต้องมีอย่างน้อย 3 ตัวเพื่อให้ครอบคลุม CPU 1 ตัวและกราฟิกการ์ด 2 ตัว แต่ปัญหาคือ AIO Water Cooling ขนาดไม่เล็กเลย แค่แปปเดียวส่วนใหญ่ก็กินพื้นที่แล้ว และที่นี่เราต้องติดตั้งถึง 3 กรณี เคสทั่วไปที่มีในท้องตลาดน้อยมากที่จะรองรับการติดตั้งตามปัญหา เว้นแต่คุณจะสั่งซื้อเคสคอมพิวเตอร์แบบกำหนดเองสำหรับงานนี้โดยเฉพาะ

ทางเลือกที่ดีที่สุดจึงตกเป็นของ Custom Water Cooling แต่ปัญหาที่ตามมาคือการใช้ชุดน้ำระบบเปิดซึ่งมีความยุ่งยากทั้งการติดตั้งและการบำรุงรักษาที่ต้องใช้ความรู้ความชำนาญและราคาค่อนข้างสูง

อีกประเด็นที่น่าสนใจคือแม้จะใช้ระบบระบายความร้อนด้วยน้ำแบบกำหนดเอง เคสคอมพิวเตอร์ก็ยังแผ่ความร้อนออกมาภายนอกเคส ถ้าไม่ใช้คอมในห้องแอร์คงจะเหงื่อตกแน่ๆ โดยเฉพาะในฤดูร้อน

3. เปลืองไฟ (High Power Consumption)

สิ่งที่ต้องพิจารณาอีกประการหนึ่งคือข้อกำหนดด้านพลังงาน เพราะกราฟิกการ์ดระดับเรือธงที่นิยมทำ SLI หรือ CrossFireX นั้น ตัวการ์ดเองต้องใช้ PSU อย่างต่ำ 300 วัตต์ เช่น RTX 3090 ต้องใช้ 350 วัตต์ (Watts) ต่อการ์ดจอ 2 ตัว ซึ่งใช้ไปแล้ว 700 วัตต์

แต่สมมติว่าใช้ 240W Intel i9-12900 กับฮาร์ดแวร์ที่เหลือ คุณจะต้องใช้ PSU อย่างน้อย 1300W ซึ่งค่อนข้างแพง

อีกทั้งอัตราการใช้ไฟฟ้าจะเพิ่มขึ้น ทำให้ค่าไฟต่อเดือนสูงขึ้นตามไปด้วย

4. ขาดการสนับสนุนจากผู้พัฒนา (Lack of Developer Support)

สำหรับเกมเมอร์ที่ต้องการใช้ประโยชน์จากคอมพิวเตอร์หลาย GPU เกมที่ต้องการเล่นจะต้องรองรับหลาย GPU แม้ว่าคุณจะเชื่อมต่อกราฟิกการ์ด RX 6900 XT สี่ตัวก็ตาม หากเกมของคุณไม่รองรับเทคโนโลยี CrossFireX หรือ SLI ผลลัพธ์ก็ไม่ต่างไปจากการใช้กราฟิกการ์ดเพียงตัวเดียว

ในอดีต กราฟิกการ์ดไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอที่จะรันเกม AAA ได้อย่างราบรื่น ไม่น่าแปลกใจเลยที่นักพัฒนาจะทำให้เกมของพวกเขารองรับเทคโนโลยี Multi-GPU แต่กราฟิกการ์ดในปัจจุบันอย่าง RTX 3090 และ RX 6900 XT สามารถรองรับเกมระดับ AAA ที่ 4K@60FPS ได้อย่างง่ายดาย เหตุผลที่ Multi-GPU ไม่คุ้มค่าอีกต่อไป

ตัวอย่างที่ชัดเจนคือกราฟิกการ์ดตระกูล RTX 30 ของ NVIDIA มีเพียงรุ่น RTX 3090 เท่านั้นที่ยังรองรับ SLI แต่หยุดอัปเดตโปรไฟล์เกมแล้ว ปล่อยให้ผู้พัฒนาเกมทำเอง ซึ่งไม่น่าแปลกใจมากนักเนื่องจากกราฟิกการ์ดตระกูล RTX 30 นั้นทรงพลังมาก RTX 2080 Ti สองตัวรวมกันใน SLI เทียบกับ RTX 3090 ตัวเดียว ประสิทธิภาพใกล้เคียงกันมาก แต่ประหยัดกว่ามากทั้งค่าไฟและค่าการ์ดจอ (ราคาในสถานการณ์ปกติ) รวมถึงจุดที่เป็นประสิทธิภาพที่สามารถใช้ได้กับทุกเกม

เมื่อผู้ผลิตกราฟิกการ์ดไม่สนใจ ผู้พัฒนาเกมก็ไม่สนใจเช่นกัน และอย่างน้อยมีผู้ใช้กลุ่มเล็กๆ ที่สามารถซื้อได้ จึงไม่น่าแปลกใจที่ปัจจุบันนี้ไม่ค่อยมีใครพูดถึงสเปค multi-GPU เหมือนสมัยก่อน

5. ไม่คุ้มค่าต่อการลงทุน (Not Worth the Cost of Investment)

ด้วยเหตุผลหลายประการที่เราได้กล่าวไว้ข้างต้น การ์ดกราฟิกในปัจจุบันนั้นทรงพลังมากจนคุณไม่จำเป็นต้องใช้การ์ดกราฟิก 2 (หรือมากกว่า) เพื่อเล่นเกมด้วยการตั้งค่าคุณภาพสูงสุด (Ultra) ดังนั้นแม้ว่าคุณจะพร้อมที่จะจ่ายเงินสำหรับสเปคระดับนี้เพื่อใช้งาน คุณแทบไม่ได้ใช้ประโยชน์จากมันเลย หรือที่สำนวนฝรั่งเรียกว่า Overkill สำนวนไทยน่าจะเรียกว่าขี่ช้างจับตั๊กแตน

ปัญหาของผู้พัฒนาเกมคือเกมส่วนใหญ่ไม่รองรับการใช้ Multi-GPU มีเกมระดับ AAA เพียงไม่กี่เกมเท่านั้น และเชื่อว่าในอนาคตมีแนวโน้มลดลงเรื่อย ๆ เพราะความแรงของการ์ดจอเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดดแทบทุกปี ลองนึกดูว่า RTX 4090 ประสิทธิภาพใกล้เคียงกับ RTX 3090 ที่มี SLI เกมอะไรจะต้องการสเปกสูงขนาดนั้น?

บทความแนะนำ

แนะนําจอคอม 144hz